ล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวแพริมแม่น้ำสะแกกรัง

ล่องเรือชมวิถีชีวิตชาวแพริมน้ำ ท่องเที่ยวกินลมชมวิว รับประทานปลาแรดที่แม่น้ำสะแกกรัง อีกทั้งดูการเลี้ยงปลาในกระชัง ชมวิถีชีวิตชาวบ้านกับการจับปลาตามธรรมชาติ รับลมเย็นสบาย ชมวัดอุโปสถาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวัดโบสถ์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสะแกกรัง เป็นวัดในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ที่เต็มไปด้วยโบราณสถานอันทรงคุณค่า ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2.30 ชั่วโมง

ถ้าล่องเรือในช่วงเย็น เวลาประมาณ 16.00-18.00 น. จะเห็นพระอาทิตย์ตกสวยงามมาก และในเดือนธันวาคม – มกราคม เส้นทางล่องเรือท่องเที่ยวเริ่มจากบริเวณหน้าตลาดสดเทศบาล หรือจะขึ้นจากท่าเรือหน้าวัดท่าซุงก็ได้ ล่องชมวิถีชีวิตในลำน้ำ ไปสิ้นสุดที่อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท จุดที่เราจะได้เห็นแม่น้ำสะแกกรังไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นเส้นทางที่ได้สัมผัสเสน่ห์แห่งชุมชนลุ่มน้ำสะแกกรังอย่างเต็มอิ่ม เรือนแพริมแม่น้ำสะแกกรัง นับเป็นสวรรค์บนผืนน้ำอันอุดมสมบูรณ์ ส่วนใหญ่แล้ว เกือบทุกแพจะมีการเลี้ยงปลากระชัง โดยเฉพาะปลาแรด ซึ่งเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ และชื่อเสียงให้กับจังหวัดอุทัยธานีเป็นอย่างมาก เนื่องจากเนื้อปลาไม่มีกลิ่นดินโคลน ปลาแรดในกระชังของที่นี่นับว่าขึ้นชื่อมาก เพราะเนื้อแน่นนุ่มและหวาน อาจเป็นเพราะน้ำที่นี่มีการไหลเวียนดีและอาจมีแร่ธาตุบางอย่างอยู่ ปลาแรดจึงมีเนื้อนุ่ม สภาพความเป็นอยู่ที่สามารถพบเห็นตามสองฝั่งลำน้ำสะแกกรัง ลำน้ำสะแกกรัง ไหลผ่านตัวจังหวัดอุทัยธานี มีเรื่องเล่าต่อกันมาว่า ในสมัยก่อน เมื่อพ่อค้าล่องเรือผ่านมา จะรู้ได้ว่าถึงบ้านสะแกกรังแล้ว โดยเฉพาะในเดือนยี่ถึงเดือนสามจะสังเกตได้ชัดเจน ต้นสะแกจะออกดอกเล็ก ๆ ช่อยาวสีเขียวอมเหลืองห้อยลงมาริมน้ำ บริเวณสองฝั่งแม่น้ำมีเรือนแพอยู่เรียงราย ฝั่งแม่น้ำด้านตะวันตกมีอาคารบ้านเรือนอยู่หนาแน่นและเป็นตลาดใหญ่ของที่ขายนั้น ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะปลูกเอง ทำเอง มีทั้งข้าวสาร ซึ่งวางขายอยู่ในกระบุง รวมทั้งอาหารคาวหวานส่วนฝั่งแม่น้ำด้านตะวันออกเป็นเกาะเทโพ มีสวนผลไม้ และป่าไผ่ตามธรรมชาติ เรือนแพที่อยู่สองฝั่งแม่น้ำเป็นเรือนไม้สร้างคร่อมบนแพลูกบวบไม้ไผ่ ชาวแพบอกว่าอยู่แพแล้วสบาย หน้าร้อนลมเย็น หน้าหนาวตอนเช้าแดดอุ่น

Scroll to Top